เตรียมความพร้อมก่อนเลี้ยงสัตว์ เลี้ยงอะไรดี ปี 2023

สิ่งสำคัญที่ต้องคิดให้รอบคอบและทำความเข้าใจก่อนเริ่มเลี้ยงสัตว์ คือ การดูแลสัตว์เป็นความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่มาก และต้องแน่ใจว่าเราพร้อมที่จะดูแลพวกเขาไปตลอดไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เพราะเรากลายเป็นโลกทั้งใบของสัตว์เลี้ยงหรือเป็นเสมือนพ่อแม่ ครอบครัวที่อยู่และดูแลพวกเขาตลอดการมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหารการกิน ที่อยู่อาศัย การออกกำลังกาย การตัดแต่งขน และการดูแลเมื่อพวกเขาป่วย ก่อนที่เราจะเลี้ยงสัตว์จำเป็นต้องศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดเพื่อให้แน่ใจว่าเรารู้จักสายพันธุ์และธรรมชาติของพวกเขาและสามารถดูแลพวกเขาได้จริง ๆ วันนี้อะพอลโลเราได้รวบรวมสิ่งที่ควรรู้และวิธีการเตรียมตัวก่อนเริ่มเลี้ยงสัตว์มาฝากกัน จะมีอะไรบ้างนั้นไปติดตามกันได้เลยค่ะ

สิ่งที่ต้องพิจารณาก่อนเริ่มเลี้ยงสัตว์

1. ความพร้อมทางการเงิน

การเลี้ยงสัตว์เป็นเปรียบเสมือนเรามีสมาชิกเพิ่มเข้ามาเป็นครอบครัว 1 ชีวิต แน่นอนว่าต้องมีค่าใช้จ่ายในการดูแลสัตว์ 1 ตัว ไม่ว่าจะเป็นค่าอาหาร ค่าของเล่น ค่ารักษาพยาบาลเมื่อป่วย ดังนั้น เราต้องมีความพร้อมทางการเงินระดับหนึ่งที่สามารถเลี้ยงสัตว์ได้โดยที่ไม่เดือดร้อนตัวเองและจะไม่รู้สึกว่าน้องเป็นภาระในภายหลังเมื่อรับน้องมาเลี้ยงแล้ว เพราะเราจะต้องดูแลพวกเขาไปตลอดชีวิต และสัตว์หนึ่งตัวมีอายุขัยที่แตกต่างกันไป

2. ความพร้อมของสถานที่และสภาพแวดล้อม

สถานที่ในการเลี้ยงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ต้องพิจารณา สัตว์เลี้ยงบางชนิดต้องการพื้นที่ที่เหมาะสมกับตนเอง บางชนิดต้องเลี้ยงในพื้นที่เปิด มีลานกว้างให้ได้ใช้พลังงาน หรือบางชนิดอาจต้องการเพียงพื้นที่เล็ก ๆ เราสามารถพิจารณาสถานที่ที่เรามีให้เหมาะสมกับชนิดและสายพันธุ์สัตว์ที่เราต้องการเลี้ยงได้

3. เวลา

สัตว์เลี้ยงทุกชนิดต้องการความรักและความเอาใจใส่จากเจ้าของ เพราะเราเปรียบเสมือนโลกทั้งใบของพวกเรา เมื่อต้องการเลี้ยงสัตว์เราจำเป็นต้องแบ่งเวลาของเราให้กับพวกเขา เช่น พาออกไปเดินเล่น หากิจกรรมทำร่วมกันกับสัตว์เลี้ยงเพื่อสร้างความสัมพันธ์ หรือแม้แต่เวลาของการให้อาหาร พาเข้านอน รวมถึงเมื่อพวกเขาป่วยด้วยเช่นกัน ต้องใช้เวลาค่อนข้างมากในกิจกรรมแต่ละวัน การออกกำลังกาย การเข้าสังคม การดูแลขน การให้อาหาร การฝึกโดยให้รางวัล การเล่น และการเป็นเพื่อนและความสนใจ ล้วนเป็นส่วนสำคัญในการมีสัตว์เลี้ยงเป็นหนึ่งในสมาชิกครอบครัวของเรา

4. วิธีการดูแลสัตว์เลี้ยงแต่ละชนิด

ก่อนที่จะรับน้องมาดูแลต้องศึกษาและทำความเข้าใจลักษณะทางกายภาพ พฤติกรรม ความชอบ และข้อมูลเฉพาะสายพันธุ์ของสัตว์เลี้ยงอย่างละเอียด เพื่อให้เราเข้าใจพวกเขาและทำให้เราแน่ใจว่าสามารถดูแลพวกเขาได้จริง ๆ ซึ่งวิธีการศึกษาข้อมูลสามารถค้นหาได้จากทางอินเทอร์เน็ต ขอคำปรึกษาจากคนที่เลี้ยงสัตว์ มีความรู้และประสบการณ์ หรือผู้เชี่ยวชาญในสายพันธุ์นั้น ๆ เพราะสัตว์เลี้ยงบางชนิดมีความต้องการเฉพาะตัวสูง หากเรารับมาเลี้ยงโดยไม่ได้ศึกษาก่อนจะทำให้เราอาจรู้สึกไม่อยากจะดูแลน้องในภายหลังและจะมีปัญหาอื่น ๆ ตามได้

การเลือกสัตว์เลี้ยง

เมื่อเราพิจารณาความพร้อมของตนเองเรียบร้อยแล้ว ลำดับต่อไปคือพิจารณาสัตว์เลี้ยงที่เหมาะกับ Life Style หรือรูปแบบการใช้ชีวิตในแบบที่เราต้องการ ซึ่งสัตว์เลี้ยงมีหลากหลายชนิดมีทั้งสัตว์ขนาดเล็กและขนาดใหญ่ สัตว์น้ำอย่างปลาสวยงามหรือสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำอย่างเต่า เป็นต้น

ตัวอย่าง 5 สัตว์เลี้ยงยอดนิยม

1. สุนัข เป็นสัตว์เลี้ยงอันดับต้นๆ ของโลก สุนัขเป็นสัตว์ที่เชื่องมากและสามารถฝึกให้เชื่อฟังได้ สุนัขเป็นเพื่อนที่ดีและสามารถให้ความรักและความเอาใจใส่แก่เจ้าของได้

2. แมว เป็นสัตว์เลี้ยงยอดนิยมอีกชนิดหนึ่ง แมวเป็นสัตว์ที่ independent มากและสามารถดูแลตัวเองได้ แมวเป็นเพื่อนที่ดีและสามารถให้ความรักและความอบอุ่นแก่เจ้าของได้

3. ปลา เป็นสัตว์เลี้ยงที่เลี้ยงง่ายและไม่ต้องดูแลมาก ปลาเป็นสัตว์ที่สวยงามและสามารถให้ความสวยงามและผ่อนคลายแก่เจ้าของได้

4. กระต่าย เป็นสัตว์เลี้ยงขนาดเล็กที่น่ารักและสามารถเลี้ยงไว้ในบ้านได้ กระต่ายเป็นสัตว์ที่ active และต้องการการออกกำลังกาย

5. หนูแฮมสเตอร์ เป็นสัตว์เลี้ยงขนาดเล็กที่ใช้พื้นที่ในการเลี้ยงค่อนข้างน้อย เหมาะสำหรับคนที่มีพื้นที่จำกัด นิสัยซุกซน ชอบวิ่งบนกงล้อ กินเก่งและเป็นมิตร

การดูแลสัตว์เลี้ยง สามารถทำได้ดังนี้

1. การให้อาหารและน้ำ

อาหารและน้ำเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับสัตว์เลี้ยง เจ้าของควรเลือกอาหารที่เหมาะสมกับชนิดและอายุของสัตว์เลี้ยง โดยควรเลือกอาหารที่มีสารอาหารครบถ้วนและมีคุณภาพดี น้ำดื่มควรสะอาดและเปลี่ยนทุกวัน

สำหรับสุนัขและแมว ควรให้อาหารวันละ 2 มื้อ โดยปริมาณอาหารจะขึ้นอยู่กับขนาดและกิจกรรมของสัตว์เลี้ยง เจ้าของสามารถปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อขอคำแนะนำในการให้อาหารที่เหมาะสม

2. การทำความสะอาด

การทำความสะอาดเป็นสิ่งสำคัญที่สามารถช่วยดูแลรักษาสุขภาพของสัตว์เลี้ยง เจ้าของควรทำความสะอาดสัตว์เลี้ยงเป็นประจำ โดยอาจอาบน้ำให้สัปดาห์ละครั้งหรือสองครั้ง ขึ้นอยู่กับชนิดของขนและลักษณะของสัตว์เลี้ยง นอกจากนี้ควรแปรงขนให้สัตว์เลี้ยงทุกวัน เพื่อขจัดสิ่งสกปรกและขนที่หลุดร่วง

สำหรับสุนัขและแมว ควรแปรงฟันให้ทุกวัน เพื่อช่วยลดคราบหินปูนและป้องกันโรคเหงือกอักเสบ นอกจากนี้ควรทำความสะอาดหูและตัดเล็บให้สัตว์เลี้ยงเป็นประจำ

3. การออกกำลังกาย

การออกกำลังกายเป็นสิ่งสำคัญสำหรับสัตว์เลี้ยงเช่นเดียวกับมนุษย์ เจ้าของควรพาสัตว์เลี้ยงออกไปเดินเล่นหรือวิ่งเล่นเป็นประจำ เพื่อช่วยให้สัตว์เลี้ยงแข็งแรงและกระฉับกระเฉง

สำหรับสุนัขและแมว เจ้าของควรพาสุนัขออกไปเดินเล่นหรือวิ่งเล่นอย่างน้อยวันละ 30 นาที ส่วนแมวควรมีของเล่นหรืออุปกรณ์ให้แมวได้ออกกำลังกายภายในบ้าน

4. การดูแลสุขภาพ

เจ้าของควรพาสัตว์เลี้ยงไปตรวจสุขภาพกับสัตวแพทย์เป็นประจำ เพื่อตรวจหาโรคและป้องกันโรคที่อาจเกิดขึ้นได้ นอกจากนี้ควรฉีดวัคซีนป้องกันโรคให้สัตว์เลี้ยงตามกำหนด

5. การให้ความรักและความเอาใจใส่

สัตว์เลี้ยงต้องการความรักและความเอาใจใส่จากเจ้าของ เจ้าของควรใช้เวลาเล่นกับสัตว์เลี้ยงและพูดคุยกับสัตว์เลี้ยงเป็นประจำ เพื่อให้สัตว์เลี้ยงรู้สึกอบอุ่น ความคุ้นเคย และความผูกพันธ์ที่มีต่อกัน

เคล็ดลับการดูแลสัตว์เลี้ยง
- เจ้าของควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงชนิดที่เลี้ยง เพื่อให้สามารถดูแลได้อย่างเหมาะสม
- ควรเลือกซื้ออุปกรณ์และอาหารที่เหมาะสมสำหรับสัตว์เลี้ยง
- ควรสร้างกิจวัตรประจำวันให้กับสัตว์เลี้ยง เพื่อให้สัตว์เลี้ยงรู้สึกปลอดภัยและมั่นคง
- ควรสังเกตพฤติกรรมของสัตว์เลี้ยงอย่างสม่ำเสมอ เพื่อหากพบความผิดปกติจะได้รีบนำสัตว์เลี้ยงไปพบสัตวแพทย์